สถาปัตยกรรมในเเบบยุโรป การจราจรที่เร่งรีบ ผู้คนที่เป็นทั้งมิตรเเละนักขาย กลิ่นอายเเห่งสงครามเเละสันติภาพ ทั้งหมดนี้คือ เสน่ห์เเห่งไซ่ง่อน 𝗛𝗼 𝗖𝗵𝗶 𝗠𝗶𝗻𝗵 𝗖𝗶𝘁𝘆 เวียดนามใต้
สำหรับเราเเล้วในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (southeast asia) เวียดนาม ถือเป็นประเทศที่เราชอบมากในเเง่การท่องเที่ยว ด้วยองค์ประกอบที่เหมาะสมหลายอย่าง เเละการพัฒนาเเบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะการท่องเที่ยว หนึ่งในเมืองที่ให้อารมณ์ในเเบบยุโรปจำลอง นอกจาก DaLat เเล้ว Ho Chi Minh (โฮจิมินห์) ก็ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่น่าไปเยือนสักครั้ง เเละที่นี่คือจุดหมายปลายทางของเราใน content นี้
ในทริปนี้เรามุ่งตรงมาจาก DaLat, Muine เเละมาจบที่ Ho Chi Minh (ขึ้นรถทัวร์เเบบนอนจากมุยเน่) ถือเป็นจุดหมายปลายทางสุดท้ายก่อนที่จะกลับบ้าน ชื่อเดิมของโฮจิมินห์ คือ ไซ่ง่อน (Sài gòn) อดีตถือเป็นเมืองหลวงของเวียดนามใต้ เมื่อเวียดนามเหนือยึดได้จึงเปลี่ยนชื่อเป็น นครโฮจิมินห์ ตามชื่อผู้นำเวียดมินห์ คือ โฮจิมินห์ นั้นเอง โดยที่นครโฮจิมินห์เเห่งนี้มีจุดท่องเที่ยวมากมาย เเละการเดินทางภายในเมืองถือว่าสะดวกมาก เพราะสถานที่ท่องเที่ยวจะอยู่ไม่ไกลกันนัก เเต่ถ้าใครไม่สะดวกในการเดิน ก็สามารถใช้บริการ Grab พาเที่ยวได้ง่ายๆ โดยสถานที่ท่องเที่ยวเเนะนำที่ห้ามพลาดใน โฮจิมินห์ มีดังนี้
จัตุรัสโฮจิมินห์ 𝗧𝗿𝗮𝗻 𝗡𝗴𝘂𝘆𝗲𝗻 𝗛𝗮𝗶 𝗦𝘁𝗮𝘁𝘂𝗲 : ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางในเมืองโฮจิมินห์ แนะนำให้มาเริ่มตรงใจกลางแห่งนี้ก่อน เพราะสามารถเชื่อมไปยังจุดต่างๆได้ง่าย โดยจุดนี้จะมีรูปปั้นของอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ ด้านหลังเป็นศาลาว่าการเมือง ตรงนี้เป็นศูนย์กลางของเมือง เเละย่านการค้า (อารมณ์คล้ายย่านสีลมของไทย)
ศาลากลางโฮจิมินห์ 𝗛𝗼 𝗖𝗶 𝗠𝗶𝗻𝗵 𝗖𝗶𝘁𝘆 𝗛𝗮𝗹𝗹 : เดินจากจัตุรัสโฮจิมินห์ จะพบตึกสีเหลืองครีมตามสไตล์โคโลเนียลฝรั่งเศส ด้านหน้ามีอนุสาวรีย์รูปปั้นอดีตผู้นำประเทศโฮจิมินห์ ตรงนี้ถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางความเจริญ ร้านค้าแบรนด์เนมและโรงแรมหรูๆอยู่โดยรอบ เช่น วินคอมเซ็นเตอร์ (Vincom Center) ยูเนี่ยนสแควร์ (Union Square) ไซ่ง่อนสแควร์ (Saigon Square) ไซ่ง่อนเซ็นเตอร์ (Saigon Center) ลัคกี้พลาซ่า (Lucky Plaza)
โรงละครโอเปร่าเฮ้าส์ 𝗢𝗽𝗲𝗿𝗮 𝗛𝗼𝘂𝘀𝗲 : ตั้งอยู่บนถนนเลเลย (ใกล้ศาลากลางโฮจิมินห์) สร้างในปี พ.ศ. 2402 เพื่อใช้แสดงอุปรากร ทุกๆ สัปดาห์จะมีการแสดงที่แตกต่างกันออกไป บริเวณลานน้ำพุจะมีชาวเวียตนาม และชาวต่างชาติมานั่งพักผ่อนกันทุกคืน สุดลานน้ำพุมองออกไปจะเป็นที่ตั้งของโรงละคร ยาฮดแถงห์โฝ (Nha hat Thanh Pho) ซึ่งหันหน้าออกถนนดงเค่ย ระหว่างโรงแรมคาราเวลล์ และโรงแรมคอนติเนนตัล
ตลาดเบนถั่น 𝗕𝗲𝗻 𝗧𝗵𝗮𝗻𝗵 𝗠𝗮𝗿𝗸𝗲𝘁 : อยู่ใกล้ๆกับจัตุรัสโฮจิมินห์ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2457 โดยมีหอนาฬิกาอยู่ด้านหน้าเป็นสัญลักษณ์ ถือเป็นตลาดที่ป๊อบสุดของที่นี่ เพราะมีสินค้าจำหน่ายมากมายทั้งเสื้อผ้า กระเป๋าเดินทาง เป้ นาฬิกา ของที่ระลึก อาหาร ในราคาไม่แพง เเต่ต้องต่อราคาเยอะๆนะ ใครที่สายนิ่งเงียบรับรองเสร็จเเม่ค้าเวียดนามทุกราย (เราใช้กลยุทธต่อราคาสองรอบถ้าไม่ให้คือเดินออกเลย เท่านั้นเเหละได้เฉย หึๆ)
โบสถ์นอร์ทเธอดาม 𝗡𝗼𝘁𝗿𝗲 𝗗𝗮𝗺𝗲 𝗖𝗮𝘁𝗵𝗲𝗱𝗿𝗮𝗹 : ตั้งอยู่บริเวณกลางเมือง บนถนน Han Thuyen ได้รับการก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2420 โบสถ์นี้ไม่มีการประดับด้วยกระจกสีเหมือนโบสถ์คริสต์ที่อื่น เพราะได้รับความเสียหายจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นโบสถ์ที่งดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในเวียตนาม ลักษณะของตัวโบสถ์เป็นรูปแบบของสมัยอาณานิคม มีหอคอยคู่สี่เหลี่ยมอยู่ด้านบนสูง 40 เมตร เป็นเอกลักษณ์ของโบสถ์แห่งนี้ ด้านหน้ามีรูปปั้นพระแม่มารีขนาดใหญ่สีขาวเด่นเป็นสง่า เป็นเสมือนสัญลักษณ์ร่วมอันหมายถึง การเข้ามาของตะวันตก ที่นี่สวยงามเวอร์วังมาก เเต่เเอดไปช่วงซ่อมเเซมนิดหน่อยเลยไม่ได้เข้าไปด้านใน
ไปรษณีย์กลาง 𝗠𝗮𝗶𝗻 𝗣𝗼𝘀𝘁 𝗢𝗳𝗳𝗶𝗰𝗲 : ใกล้กับโบสถ์นอร์ทเธอดาม (ข้ามถนนก็เจอเลย) สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2444 ออกเเบบสไตล์ฝรั่งเศส มีการตกแต่งอย่างงดงามด้วยกระจกสี เป็นไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเวียตนาม ภายในตัวอาคารมีการระดับภาพแผนที่ทางทะเลโบราณ และภาพของอดีตผู้นำประเทศโฮจิมินห์ มีการบริการทั้งการส่งจดหมาย แสตมป์เพื่อการสะสม โปสการ์ด โทรศัพท์ เเละขายของที่ระลึกมากมาย คึกคักสุดๆ
พิพิธภัณฑ์สงคราม 𝗪𝗮𝗿 𝗥𝗲𝗺𝗻𝗮𝗻𝘁𝘀 𝗠𝘂𝘀𝗲𝘂𝗺 : พิพิธภัณฑ์จัดแสดงเครื่องมือการรบ และอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆในสมัยสงครามเวียดนาม มีทั้งของจีน สหรัฐอเมริกา พร้อมภาพถ่ายที่ถ่ายทอดความรู้สึกการเสียสละเลือดเนื้อของชาวเวียดนามเพื่อปกป้องประเทศ ทั้งภาพการถูกทรมานด้วยวิธีการต่างๆ การสู้รบ เป็นต้น ภายนอกตัวอาคารมีการจัดเเสดง เครื่องบิน และรถถังรุ่นที่ใช้ในสงครามเวียดนามของ สหรัฐอเมริกาและรัสเซีย จัดวางเรียงรายอยู่โดยรอบบริเวณพิพิธภัณฑ์ เเละมีการจำลองคุกคุมขังนักโทษอยู่ด้านข้างอาคารด้วย หลายคนบอกว่าที่นี่เล่าความข้างเดียวในมุมเวียดนาม เเต่เรามองว่า ประวัติศาสตร์ของใครใครก็อยากเล่าเรื่องราวของชนชาติตัวเองในมุมมองของ Hero กันทั้งนั้น เพียงเเต่บทสรุปทิ้งท้ายต้องตีเเผ่ผลลัพธ์ว่า สงครามไม่เคยให้อะไรกับใคร มีเพียงความสูญเสียเท่านั้น
อื่นๆ นอกเหนือจากสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้เล่ามา ยังมีอีกหลายที่ใน นครโฮจิมินห์ ที่ถ้ามีเวลาเราก็เเนะนำให้ไปเยือน เช่น History Museum, Ho Chi Minh Museum, ทำเนียบอิสรภาพ Independence Palace เเละ The Cafe Apartment อาคารสีสันสดใสที่รวมร้านกาเเฟกว่า 30 ร้านไว้ในอาคาร เป็นต้น โดยส่วนตัวเราว่า เวียดนามใต้เที่ยวง่ายมาก การเดินทางสะดวก (Grab คือทุกสิ่ง) ค่าครองชีพถูก (ถ้าไม่พลาดถูกโกงจากนักขายต่างๆที่เข้ามาตีสนิท อันนี้สาวๆไปคนเดียวควรระวัง) ถือเป็นเมืองที่อยากกลับไปเยือนอีกครั้งหลังโควิดเบาบางลง เเล้วเจอกันใหม่ content หน้า บับบุยจ้าาาา
ดูภาพเต็มๆ ได้ต่อที่ FB: Click
พิกัด
Thành phố Hồ Chí Minh, Vietnam
Click to Location
How to go
การเดินทางที่ดีที่สุด คือ ต้องบอกว่าการเดินทางเที่ยวในเมือง Ho Chi Minh ค่อนข้างจะง่ายมาก เพราะสถานที่อยู่ไม่ไกลกันเกินไป เเละมีบริการ GRAB ให้เรียกใช้ได้ตลอดเวลา เราเลือกโดยสารรถทัวร์เเบบนอนจาก Muine มาลงที่นี่เพราะวางไว้เป็นปลายทางสุดท้ายก่อนขึ้นเครื่องกลับไทยที่ Tan Son Nhat Airport
ระยะเวลาดื่มด่ำ 2 วัน / อากาศร้อนเเบบกรุงเทพเป๊ะๆ / ซื้ออะไรต่อรองเยอะๆ / ระวังคนเเปลกหน้ามาตีสนิทขายของ หลอกเงิน